ถอดรหัส BIGBANG – LOSER

 

ในมิวสิควิดีโอ LOSER สมาชิก BIGBANG แต่ละคนต่างรับบทบาทเป็นตัวละครที่มีคาบเกี่ยวกับตัวตนของแต่ละคนในชีวิตจริงในบางแง่มุม 

 

จีดราก้อน:
เปิดตัวมาด้วยการลงจากรถหรู แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่จัดจ้านฉูดฉาด มีผู้ช่วยคอยถือของเปิดประตูให้ เขาดูเหมือนคนที่มีความพร้อมทางฐานะพอสมควร

แต่เขาก็มีใบหน้าที่แสดงออกถึงความหดหู่และเศร้าหมองอยู่ตลอดเวลา เป็นเพราะแท้ที่จริงแล้ว
“เขาเป็นคนโดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อนที่แท้จริง เป็นคนที่สังคมมองว่าแปลกแยก”
สังเกตได้จากการที่เขาเอาแต่เฝ้ารอโทรศัพท์ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครโทรมาสักคน

เขาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในอพาร์ตเม้นของเขา ซึ่งอพาร์ตเม้นนี้อาจเป็นสัญลักษณ์ของ ‘พื้นที่ส่วนตัว’ ที่เขาใช้ซ่อนตัวเองจากโลก/สังคมภายนอก (การนอนในอ่างอาบน้ำเป็นการแสดงถึงการต่องการหลบหรือซ่อนตัว)

หรือ ‘ส่วนลึกในจิตใจที่ไม่มีใครมองเห็น’ (เพราะอพาร์ตเม้นนี้เป็นเพียงที่เดียวเท่านั้นที่เขาสามารถระบายความโกรธออก มาได้อย่างเต็มที่)

เขาเป็นคนที่สังคมมองว่า ‘แปลกประหลาด’ อาจจะด้วยวิถีการใช้ชีวิตหรือกระทั่งการแต่งกายซึ่งดูจะต่างจากคนเดินถนนทั่วไปอยู่มาก
และถึงแม้เขาจะออกไปเดินกลางท้องถนนด้วยเสื้อผ้าประหลาดเหล่านั้น สิ่งที่เขาได้รับกลับไม่ใช่ ‘ความสนใจ’ แต่กลับเป็น ‘การเพิกเฉย/การมองข้าม’ ต่างหาก เขากระทั่งล้มลงนอนกลางถนนด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสนใจอยู่ดี เหมือนทุกคนพยายามปฎิเสธการมีอยู่ของเขา ซึ่งส่วนนี้จะตรงกับเนื้อเพลงท่อนที่ว่า “ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเหมาะกับโลกใบนี้เลย”

นอกจากนี้ ในส่วนของGD ยังมีการใช้สัญลักษณ์ที่น่าสนใจ คือ
TRUTH + DARE ซึ่งเพี้ยนมาจาก TRUTH or DARE หรือแปลแบบไทยๆว่า “จริงหรือกล้า” เป็นเกมยอดฮิตหนึ่ง(ในวงเหล้า/ปาร์ตี้) ซึ่งผู้เล่นต้องเลือกว่าจะตอบคำถามของผู้เล่นคนอื่นด้วยความสัจจริง เท่านั้น(Truth) หรือเลือกที่จะยอมรับคำท้าแปลกๆแผลงๆจากผู้เล่นคนอื่น(Dare)
แต่ที่คอของGDถูกเขียนไว้ว่า TRUTH + DARE นั่นคือ เขาไม่จำเป็นต้องเลือก เขาสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่มีความกลัว เขาไม่กลัวความจริง เขาไม่กลัวความท้าทายใดๆ

ป้าย WRONG WAY หรือที่แปลว่า ‘มาผิดทางแล้ว’ ป้ายนี้ถูกใช้ในฉากเพียงสั้นๆ สื่อถึงผู้คนที่คอยตัดสินคนอื่นอยู่ตลอดเวลาว่าวิ่งใดถูกสิ่งใดผิด และบางครั้งเราเอง(หรือตัวของGD)ก็หวั่นไหวไปกับคำพูดเหล่านั้นและยึดติดกับ มัน

TOP:
ชายผู้ต้องการความสมบูรณ์แบบและต้องการควบคุมทุกอย่างในชีวิตให้เป็นไปตาม ทิศทางที่เขาอยากให้เป็นเท่านั้น เขาคลั่งไคล้ผลงานศิลปะและให้ความสำคัญ ความใส่ใจ ความละเอียดอ่อนกับพวกมันมาก(เห็นได้จากการห่อกันกระแทกให้เฟอร์นิเจอร์แทบ ทุกอย่างและงานแทบทุกชิ้น รวมถึงการใส่ถุงมือสีขาว ซึ่งปกติการใส่ถุงมือแบบนี้มีความจำเป็นอย่างมากเวลาต้องจับต้องงานศิลปะ หรือโบราณวัตถุมีค่าเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหาย)
เขาเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงแทบไม่ซ้ำหน้า เนื่องจากความที่เขาเป็นคนต้องการความสมบูรณ์ ฉะนั้น เมื่อใดที่เขาพบ ‘ตำหนิ’ ของผู้หญิงคนนั้นเขาก็จะตีจากทันที

และการที่เขาใส่ถุงมือสีขาวเวลาสัมผัสผู้หญิง รวมถึงวิธีการสัมผัสพวกเธอแล้วมองอย่างพินิจพิเคราะห์นั่นเป็นเพราะว่า สำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงเป็นเพียงงานศิลปะชิ้นหนึ่งเท่านั้น เขาจึงมองพวกเธอแล้วพยายามตีค่าเหมือนสิ่งของ

ในตอนท้าย เขาก็พลั้งมือทำร้าย(หรืออาจฆ่า)คนที่เคยมีความสัมพันธ์ด้วยเพราะเหตุผลบางอย่าง
ในที่สุด เขาก็กลายเป็นคนเสียสติออกมาวิ่งร้องไห้กลางถนนโดยใส่เพียงชุดนอน เสื้อคลุมและรองเท้าแตะ..
ชีวิตของเขาสูญเสียการควบคุมทุกอย่างไปจนหมดสิ้น

ส่วนของ TOP ส่วนนี้จะตรงกับเนื้อเพลงท่อนที่ว่า “ทำเรื่องผิดพลาด กับผู้หญิงซ้ำๆซากๆ รักพวกเธอแค่ชั่วข้ามคืน พอตื่นเช้ามาก็ชิงชังพวกเธอ…เพราะความต้องการอันแสนเห็นแก่ตัวของฉัน ทุกๆอย่างถึงได้พังทลายลง” นั่นเอง

แทยัง:
แทยังก็เป็นอีกคนหนึ่งที่โดดเดี่ยวตัวเองออกจากสังคมภายนอก แล้วใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขา
เขาใช้เวลาของเขาในการสร้างสรรค์งานศิลปะ(สักและงานกราฟิตี้) แต่งานศิลปะของเขานี้หลายคนเรียกมันว่า “ขยะ” (นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่.. ซึ่งเป็นที่ทิ้งขยะ เพราะเขาไม่เหมาะกับสังคมและผู้คนเหล่านั้น แต่เหมาะกับที่นี่ ตรงกับเนืื้อเพลงที่ว่า “ฉันเป็นขยะชั้นต่ำ”)

อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้จากบทบาทของแทยังคือ เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในพระเจ้าอย่างมาก ถึงแม้เขาจะปลีกตัวออกจากสังคมแต่เขาก็ไม่ได้โดดเดี่ยว เพราะพระเจ้าจะอยู่กับเขาเสมอ และพระองค์จะไม่ทอดทิ้งผู้ที่มีศรัทธา
งานศิลปะของเขามีสัญลักษณ์ของไม้กางเขนที่มีข้อความว่า “SIN WILL FIND YOU” ที่แปลว่า “บาปจะตามคุณเจอไม่ช้าก็เร็ว” เขียนอยู่

นั่นหมายความว่า ไม่มีใครหนีรอดสายตาของพระเจ้าพ้น และเมื่อวันที่พระองค์จะตัดสินบาปมาถึง เราก็ได้เพียงแต่ก้มหน้ายอมรับมันเท่านั้น แทยังสื่อ ‘การยอมรับ’ นี้ผ่านการอ้าแขนเพื่อโอบรับและทิ้งตัวลงมาจากตึก เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาปลดเปลื้องและปล่อยวางในทุกสิ่ง เขาพอกับทุกอย่างและพร้อมแล้ว
ตรงกับเนื่อเพลงที่ว่า “ฉันยืนอยู่ที่ขอบหน้าผาเพียงลำพัง” และ “ฉันก็อยากจะยอมแพ้กับทุกๆอย่าง ฉันอยากจะบอกลา … ฉันหวังว่าเมื่อนั้นฉันคงตายตาหลับได้อย่างไม่มีอะไรต้องเสียใจ”

นอกจากนี้ ในส่วนของแทยังยังมีการใช้ข้อความที่มีความหมายอีกมากมายในการแสดงออก (ส่วนนี้ขอยกเครดิตให้ MShinju ที่แกะข้อความให้)

[ความหมาย: ทั้งหมดของชีวิตน่ะมันก็มีแค่เรื่องความงงดงาม เงิน ชื่อเสียง โชคลาภ เราต่างก็เหมือนหนูสกปรกที่ต้องวงวนไปรอบๆ … ฉันมีคำตอบให้กับทุกเรื่อง]

Security comes from knowing who I am

[ความหมาย: เราจะรู้สึกปลอดภัยก็ต่อเมื่อเรารู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง]

MUSIC IS LIFE. ART IS LIFE. BE FREE ALWAYS.

[ความหมาย: ดนตรีคือชีวิต ศิลปะคือชีวิต จงอยู่อย่างเป็นอิสระ]

Leave open for the positive 2 enter

[ความหมาย: จงเปิดประตูต้อนรับให้สิ่งดีๆเข้ามา]

It all begins and ends with you

[ความหมาย: ทุกอย่างมันเริ่มต้นและสิ้นสุดที่เธอ]

If I could go wherever I probably wouldn’t choose

[ความหมาย: ต่อให้เลือกได้ว่าจะไปที่ไหน ฉันก็อาจไม่เลือกด้วยซ้ำไป]

It’s free to be free

[ความหมาย: มันรู้สึกอิสระที่ได้เป็นอิสระ]

I do what I want

[ความหมาย: ฉันทำอย่างที่ใจต้องการ]

Enough pain

[ความหมาย: พอทีกับความเจ็บปวด]

แดซอง:
ชายหนุ่มอ่อนแอที่ถูกรังแกจากกลุ่มนักเลงเป็นประจำ (จะเห็นว่าในส่วนของแดซองจะเป็นการต่อสู้กับ ‘กลุ่มคน’ ไม่ใช่กับคนคนเดียว) เขาถูกรุมทำร้ายจนเจ็บตัวยับเยิน ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล

แม้แต่สิ่งของที่คนรักมอบให้ไว้ก็ไม่อาจปกป้องเขาได้ มันกลับถูกกลุ่มคนเหล่านั้นโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี เช่นเดียวกับตัวของแดซองเองที่ถูกทิ้งให้นอนร้องไห้อยู่คนเดียวกลางถนน

จนวันหนึ่งเด็กหนุ่มที่เคยอ่อนแอ ขี้แพ้ ไม่กล้าสู้สายตาใครคนนี้ ได้ตัดสินใจว่าเขาต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยตัวของเขาเอง เขาต้องแข็งแกร่งด้วยตัวเองให้ได้ เขาเฝ้าบอกกับตัวเองในกระจกอยู่อย่างนั้น เหมือนกับเนื้อเพลง “คนขี้ขลาดที่แสร้งทำเป็นเข้มแข็ง”

แต่หลายครั้งหลายคราวที่เขาก็ต้องกลับมาร้องไห้กับตัวเองที่หน้ากระจกใบเดิม เพราะมันหนักหนาเกินกว่าที่เขาจะรับไหว เหมือนกับท่อน “ในกระจกน่ะนายมันก็แค่ไอ้ขี้แพ้”

เขาล้ม เขาเจ็บอยู่หลายต่อหลายครั้ง เขาไม่เคยชนะ แต่สิ่งหนึ่งคือ
“เขาไม่เคยยอมแพ้ และการต่อสู้ของเขาไม่มีวันสิ้นสุด”

ซึงรี:
เนื้อหาในส่วนของซึงรีเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่าย เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายที่เลิกรากับหญิงคนรักไป เขาเธอกำลังเดินอยู่กับผู้ชายคนอื่น พอเขาโทรหาเธอก็ไม่รับสาย เข้าเฝ้าโทรหาเธออยู่อย่างนั้นแต่เธอก็ไม่รับ ทำให้เขาโมโหแล้วพังข้าวของในบ้านซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้ายพอ สมควร และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเลิกรากับแฟนสาว

ในที่สุด ทั้งสองก็ได้พบกันซึ่งหน้า แต่สุดท้ายก็ต้องทะเลาะกันรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
เช่นเดียวกับเนื้อเพลง “ทำเรื่องผิดพลาดกับผู้หญิงซ้ำๆซากๆ … เพราะความต้องการอันแสนเห็นแก่ตัวของฉัน ทุกๆอย่างถึงได้พังทลายลง”

เขียนโดย TOW (thisistow1992)